ธาตุอาหาร (Nutrition) เห็ดเป็นพืชชั้นต่ำไม่สามารถสังเคราะห์อาหารเองได้(Hetrotroph)จึงจำเป็นต้องอาศัยอาหารสำเร็จรูปจากแหล่งต่างๆเช่นไม้ผุหรือปุ๋ยหมักเป็นต้น
เป็นเห็ดที่มีน้ำย่อยที่สามารถย่อยอาหารเชิงซ้อน โดยเฉพาะ
พวกที่ให้พลังงานได้เช่นธาตุคาร์บอนที่อยู่ในรูปเชิงซ้อน ได้แก่ พวกลิกนิน (Lignin)
ฮิมิเซลลูโลส (Hemicellulouse) โดยเส้นใยเห็ดมีน้ำย่อยทำการย่อยธาตุอาหารด้วยตัวมันเองได้
และนำเอาไปใช้พลังงานที่ใช้ในการเจริญเติบโต และแบ่งเซลของมันจากเหตุผลดังกล่าว
จึงสามารถใช้วัสดุเพาะโดยตรงได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องทำการหมัก เสียก่อนยกเว้น
วัสดุบางชนิดที่มียางที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นใยเห็ด หรือ
เป็นวัสดุที่แข็งยาว ยากต่อการนำเอาไปบรรจุในถุง เช่น ฟางข้าวต้น ข้าวโพด ขี้เลื่อยไม้เบญจพรรณ
เป็นต้น ควรทำการหมักให้นิ่มก่อน หรือ ให้จุลินทรีย์ ช่วยย่อยให้ระดับหนึ่งก่อน แต่ไม่ถึงกับหมักจนเน่าสลายเหมือน
การหมักปุ๋ยเห็ดฟาง
ธาตุอาหารเกลือแร่และวิตามินหลัก
ที่เห็ดต้องการมีเช่นเดียวกับพืชโดยทั่วไปจะต่างกันเพียงแต่รูปร่างของธาตุอาหารเท่านั้นเห็ดต้องการมากแต่มักจะขาดแคลนในปุ๋ยหมัก
ได้แก่ คาร์บอน ไนโตรเจน ออกซิเจน เกลือแร่และวิตามิน ธาตุคาร์บอน (Carbon) สามารถใช้คาร์บอนที่สลับซับซ้อนได้
ดังนั้นการใช้วัสดุเพาะที่เป็นขี้เลื่อย
จากไม้เนื้ออ่อนเหมือนเห็ดที่เพาะในถุงพลาสติกชนิดอื่น
ได้แต่ถ้ามีการเติมแหล่งคาร์บอนที่อยู่ในรูปง่ายเช่นเซลลูโลสแป้งและน้าตาลเข้าเสริมในวัสดุเพาะ
ในปริมาณที่พอควร เส้นใยของเห็ดก็จะเจริญได้ดี ธาตุไนโตรเจน (Nitrogen ,N.)
เป็นเห็ดที่มีโปรตีนสูงมาก ไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของ
โปรตีนโดยมีอยู่ประมาณ 16% ดังนั้นการเจริญเติบโตของเส้นใยเห็ดจะต้องอาศัย
ไนโตรเจนเป็นอาหารที่สำคัญด้วย ไนโตรเจน ที่เห็ด สามารถนาไปใช้ได้ดีนั้น คือ
ไนโตรเจนในรูปอินทรีย์สารที่ให้ผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นใยเห็ดมากที่สุด คือ
โปรตีนที่มีอยู่ในรำละเอียด ใบกระถิ่นป่น แต่จากการศึกษาการใช้ไนโตรเจนในรูปของ
อาร์จินีน (Arginine) จะช่วยในการกระตุ้นให้เห็ดออกดอกมากขึ้น
และดีขึ้น เกลือแร่ (Minerals) เกลือแร่ก็เป็นอาหารที่สาคัญของเห็ดโดยแบ่งเป็นกลุ่มคือ:
- ที่ต้องการมาก ได้แก่ ฟอสฟอรัส (P) โปรแตสเซียม (K)
กามะถัน (S) แคลเซียม (Ca) แมกนีไซดร์(Mg) ที่ต้องการน้อย ได้แก่ โมลิปตินัม (Mb)
โบรอน (B) ทองแดง (Cu) แมงกานีส
(Mn) สังกะสี(Zn) และอื่นๆ ฟอสฟอรัส
จากดับเบิลฟอตเฟสมีผลทาให้เส้นใยเห็ดแข็งแรงเพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนธาตุแมกนีเซียมที่อยู่ในรูปของดีเกลือ(MgSo4 7 H2O) และฟอสเฟตในรูป Potassium dihydrogen
phosphate มีผลทาให้เส้นใยของเห็ดเจริญเติบโตเข้าไปในวัสดุเพาะ และ
รวมตัวกันเป็นดอกเห็ดได้เร็วยิ่งขึ้น
แต่หากใส่มากเกินไปดอกเห็ดจะมีก้านยาวสีซีดดอกเห็ดมีขนาดเล็ก ไม่ค่อยสมบูรณ์
หากนาไปผสมน้ารดตอนที่ดอกเห็ดเกิดเป็นดอกแล้ว ดอกเห็ดจะฝ่อตายได้ง่าย
นอกจากนี้ยังพบว่าธาตุบางอย่าง เช่น โวเดียมที่มีอยู่ในรูปเกลือแกง NaCl มีผลยับยั้ง การเจริญเติบโตของเส้นใยเห็ด เป็นการยืนยันว่าพื้นที่ใดที่มีอิทธิผลของน้ำทะเลเข้ามาถึงน้ำที่มีความเค็ม
เช่นน้ำกร่อยหากนามารดในวัสดุเพาะเห็ดจะให้ผลผลิตไม่ดีเท่าที่ควร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของน้ำทะเล
หรือจำนวนเกลือแกง วิตามินหรือฮอร์โมน Vitamins จากการศึกษาพบว่ามีวิตามินบี
(Thiamine) ในระดับความเข้มข้น0.5มิลลิกรัมต่อลิตรสามารถเร่งการเจริญเติบโตของเส้นใยเห็ดได้
ฮอร์โมน กิบเบอราอิค แอซิค Giberellic Acid ที่สกัดจากเชื้อราที่เรียกว่า
Gibberella ferjikuroi (Saw) Wollen ขนาดความเข้มข้น 0.001%
มีผลต่อการเจริญเติบโตของดอกเห็ดการใช้ปุ๋ยยูเรียจำนวนน้อย
รดที่วัสดุเพาะหรือดอกเห็ดจะทำให้เส้นใยหนา ดอกเห็ดมีน้าหนักดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น